หากจะกล่าวถึงเมนูยอดนิยมตลอดกาล เชื่อว่าเมนู ข้าวคลุกกะปิ น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบมาโดยตลอด เรียกได้ว่ารับประทานกันมาอย่างนมนาน แม้ว่าในยุคปัจจุบันจะมีเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจกว่าเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม เมนูข้าวคลุกกะปิ ก็ยังคงเป็นเมนูสุดโปรดปรานของใครหลายคนเสมอมา จึงอยากจะลองชวนทุกคนมาลองทำ เมนูข้าวคลุกกะปิ ไว้รับประทานกันเอง หากพร้อมแล้วไปเตรียมวัตถุดิบมาให้ครบ แล้วเข้าครัวลงมือทำกันได้เลย
วัตถุดิบที่ต้องใช้ในการทำเมนูข้าวคลุกกะปิ
1.ข้าวหุงสุก จำนวน 2 ถ้วยตวง
2.ไข่เจียวหั่นฝอย จำนวน 1 ฟอง
3.พริกทอด จำนวน 2 เม็ด
4.แตงกวา จำนวน 1 ลูก
5.มะนาว จำนวน 1 ลูก
6.กะปิ จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ
7.พริกซอย จำนวน ½ ถ้วย
8.ถั่วฝักยาวซอย จำนวน ½ ถ้วยตวง
9.กุนเชียงทอด จำนวน ½ ถ้วยตวง
10.หอมแดงซอย จำนวน ½ ถ้วยตวง
11.กุ้งแห้งทอด จำนวน ½ ถ้วยตวง
12.มะม่วงดิบสับเส้นยาว จำนวน ½ ถ้วย
13.ผักชี
14.น้ำมันพืช
วัตถุดิบสำหรับการทำหมูหวาน มีทั้งหมด 8 ชนิด ดังต่อไปนี้
1.หมูสามชั้น จำนวน 500 กรัม
2.หอมแดงซอย จำนวน 100 กรัม
3.น้ำตาลปี๊บ จำนวน 75 กรัม
4.ซอสหอยนางรม จำนวน 3 ช้อนโต๊ะ
5.ซีอิ๊วดำ จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำมันพืช จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำปลา จำนวน 3 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำเปล่า จำนวน 1 ถ้วย
วิธีการทำหมูหวาน มีทั้งหมด 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะพร้อมใส่น้ำมัน รอสักระยะนึงจนกระทั่งน้ำมันเริ่มเดือด ใส่หอมแดงตามลงไปแล้วใช้ตะหลิวผัดพอสุก ตามด้วยใส่หมูสามชั้นลงไปในกระทะ
2.ใส่ส่วนผสมต่างๆ ประกอบไปด้วย ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำ และน้ำปลา ใช้ตะหลิวผัดไปเรื่อยๆ จากนั้นเทน้ำเปล่าลงไปพอท่วมหมู ปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลาประมาณ 10 นาที
3.เมื่อเคี่ยวจนครบ 10 นาทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หมูภายในกระทะจะเริ่มนุ่ม ให้ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป คลุกเคล้าจนส่วนผสมเข้ากัน แล้วตักขึ้นมาใส่ไว้ในภาชนะ
วิธีการทำข้าวคลุกกะปิ มีทั้งหมด 2 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.ขั้นตอนแรกให้ตั้งกระทะพร้อมใส่น้ำมันจนร้อน ใส่กะปิลงไปผัดจนหอม จากนั้นเทน้ำเปล่าลงไปนิดหน่อย ตามด้วยใส่ข้าวลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวผัดไปเรื่อยๆ จนเริ่มส่งกลิ่นหอมโชย
2.ตักข้าวใส่ลงไปในภาชนะ แล้วจัดเสิร์ฟด้วยเครื่องเคียงชนิดต่างๆ เช่น กุ้งแห้งทอด หอมแดงซอย พริกทอด กุนเชียงทอด ไข่เจียวหั่นฝอย หมูหวาน และเครื่องเคียงอื่นๆ เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมสำหรับการรับประทาน ข้าวคลุกกะปิ แล้ว